คำถามที่พบบ่อย

หากมีคำถามเกี่ยวกับ EMS อ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่ หรือติดต่อเรา


คำถามทั่วไปเกี่ยวกับการออกกำลังกายแบบ EMS


EMS ย่อมาจาก Electric Muscle Stimulation หรือการกระตุ้นกล้ามเนื้อขณะออกกำลังกายด้วยคลื่นไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อหดตัว โดยเป็นการนำเอาศาสตร์ด้านชีวะและไฟฟ้ามาผสมผสานกัน หรือที่เรียกว่าไบโออิเล็กทรอนิกส์ (bioelectronics) เทคโนโลยี EMS จะใช้กระแสไฟฟ้าที่ส่งจากอุปกรณ์ภายนอก ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อหดตัวได้ ซึ่งเป็นการออกกำลังกายที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ในเวลาที่จำกัดที่สุด โดยคลื่นไฟฟ้าจะถูกส่งโดยตัวนำไฟฟ้า ผ่านชุดออกกำลังกายและเสื้อผ้าเหนี่ยวนำไฟฟ้า ที่ FiTin25 ได้เตรียมไว้ให้คุณ
การออกกำลังกายแบบ EMS เข้าถึงเส้นใยกล้ามเนื้อได้ถึง 90% เปอร์เซ็นต์ขณะที่กล้ามเนื้อหดตัวในแต่ละครั้ง โดยจะไปกระตุ้น เส้นใยกล้ามเนื้อแบบหดตัวเร็ว (Fast Twitch Fibers) ซึ่งโดยปกติแล้วจะทำงานได้หลังจากการออกกำลังกายที่เข้มข้นเป็นระยะเวลานานๆเท่านั้น การออกกำลังกายแบบ EMS จึงมีประสิทธิภาพกว่าการออกกำลังกายทั่วไปถึง 15 เท่า และให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่า

ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า มีข้อศึกษาทางวิทยาศาสตร์ยืนยันแล้วว่า การออกกำลังกายแบบ EMS เพียง 25 นาทีเท่ากับการออกกำลังกายทั่วไป 3 ชั่วโมง โดยแต่ละครั้งสามารถบริหารกล้ามเนื้อได้ทั่วร่างกาย ซึ่งการเทรนเพียงแค่ 25 นาที สามารถบริหารกล้ามเนื้อได้ถึง10กลุ่ม ทั้งกล้ามเนื้อทำการและกล้ามเนื้อต้าน และกล้ามเนื้อที่อยู่ลึกลงไปได้ถึง 150 ครั้งใน 4 วินาที โดยการออกกำลังกายแบบนี้มีความเข้มข้นมาก เราจึงขอแนะนำให้เล่นเพียง 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์

การออกกำลังกายแบบ EMS เหมาะสำหรับผู้เล่นอายุ 18-70 ปีในทุกสภาพร่างกาย รวมถึงผู้ที่ต้องการออกกำลังกายหลังตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม หากมีปัญหาด้านสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ กรณีผู้เล่นมีอาการไข้เฉียบพลันหรือใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ ไม่สามารถเข้ารับบริการได้


ความปลอดภัย


การกระตุ้นกล้ามเนื้อด้วยคลื่นความถี่ไฟฟ้าต่ำโดยเทคโนโลยี EMS ไม่ทำให้เกิดอันตราย เนื่องจากโดยปกติแล้ว คลื่นไฟฟ้าในตัวมนุษย์มักเข้มข้นขึ้นจากปัจจัยภายนอก ดังนั้น คลื่นไฟฟ้าจึงเป็นสิ่งที่ร่างกายคุ้นชิน

ไม่ เนื่องจากคลื่นไฟฟ้าความถี่ต่ำจะกระตุ้นกล้ามเนื้อลายหรือกล้ามเนื้อภายนอก ซึ่งจะไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่อหัวใจ.

ไม่อันตราย ตามข้อมูลของผลการศึกษาที่เผยแพร่อย่างเป็นทางการแล้ว การใช้คลื่นไฟฟ้ากระตุ้นกล้ามเนื้อไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อผู้ที่มีสุขภาพร่างกายในระดับปกติ ขณะเดียวกัน วิธีนี้กลับให้ผลลัพธ์ทางบวก ซึ่งการกระตุ้นกล้ามเนื้อด้วยไฟฟ้าใช้ในกายภาพบำบัดมาตั้งแต่ปี 1950 แล้ว

ไม่อันตราย เนื่องจากคลื่นไฟฟ้าความถี่ต่ำจะกระตุ้นกล้ามเนื้อลายหรือกล้ามเนื้อภายนอก ซึ่งจะไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่ออวัยวะภายใน.


ประโยชน์ของ EMS


เทคโนโลยีการกระตุ้นกล้ามเนื้อด้วยไฟฟ้าให้ประโยชน์เหมือนกับการอออกกำลังกายทั่วไป แต่ใช้เวลาน้อยกว่า และเป็นวิธีที่รวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากกว่าในการบรรลุเป้าหมาย เช่น การกระชับสัดส่วน ลดน้ำหนัก สร้างกล้ามเนื้อ หรือเพิ่มสมรรถภาพให้แก่ร่างกาย การออกกำลังกายแบบ EMS ทำให้ร่างกายมีสุขภาพดีขึ้น แข็งแรงทนทานขึ้นได้เพียง 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น

คุณสามารถบรรลุเป้าหมายได้ด้วยการออกกำลังกายเพียง 25 นาทีต่อครั้ง 1-2 ต่อสัปดาห์

ช่วยได้ ในระยะที่ฝึกออกกำลังกายแบบ EMS ช่วงแรก รูปร่างจะกระชับขึ้น และในระยะที่สอง เซลส์ที่เก็บไขมันจะแตกตัว ซึ่งจะทำให้ไขมันและน้ำหนักลดลง นอกจากนี้ การที่มวลกล้ามเนื้อถูกสร้างระหว่างการออกกำลังกายแบบ EMS จะทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม การลดน้ำหนักนั้น ขึ้นอยู่กับการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายที่สม่ำเสมอด้วย ซึ่งการออกกำลังกายแบบนี้ จะทำให้ผู้เล่นสามารถลดน้ำหนักได้ในระยะยาว

ได้ หากมีอาการหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท ควรใช้ EMS เนื่องจากจะทำให้ชั้นกล้ามเนื้อด้านในแข็งแรงขึ้น ส่งผลให้กระดูกสันหลังแข็งแรงขึ้น และทำให้อาการปวดหลังลดน้อยลง

โปรแกรมการออกกำลังกายแบบ EMS ออกแบบมาเพื่อบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวแข็งแรงขึ้น และทำให้กลั้นปัสสาวะได้ดีขึ้นด้วย นอกจากนี้ เทคนิค EMS ยังทำให้รูปร่างหลังคลอดดีขึ้น ทั้งนี้ หญิงตั้งครรภ์ไม่สามารถออกกำลังกายแบบ EMS ได้